วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556

วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ตลาดบริเวณสถานีรถไฟ

วันนี้มีเวลามาเดินเที่ยวตลาดบริเวณสถานีรถไฟค่ะ เลยเก็บภาพมาให้ได้ชมกัน^_^


ภาพด้านล่างเป็นพ่อค้า ที่ขายพวกของแปลก ของหายากค่ะ



บริเวณตลาดค่ะ

ตอนกำลังถ่ายรูปรถไฟมาพอดี สักรูปค่ะ^^




 ภาพ: by Namfon Thongchuer ^_^

************************************************************






วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

มัสยิดกลางจังหวัดยะลา และ ย่านชุมชนตลาดเก่า


มัสยิดกลางจังหวัดยะลา 


ประวัติความเป็นมา

          

มัสยิดกลางจังหวัดยะลาตั้งขึ้นครั้งแรก พ.ศ.๒๔๙๗ ในที่ดินของนาย
อุสมาน  ดอฮะ โดยมีหะยีอับดุลฮามิด อับดุลซอมัดเป็นอิหม่าม มัสยิดนี้ชื่อว่า "มัสยิดเราฏอตุลยันนะห์" ใน พ.ศ.๒๔๙๙ รัฐบาลได้ให้งบประมาณสนับสนุนให้ขยายขนาดของอาคารมัสยิดให้จุคนได้ ๓๐๐ คน ต่อมาในปีพ.ศ.๒๕๒๒ รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณ ๒๘,๒๐๐,๐๐๐  บาท  ขยายพื้นที่และสร้างอาคารมัสยิดดังเห็นอยู่ในปัจจุบัน อันเป็นอาคารที่ออกแบบโดยสถาปนิกของกระทรวงศึกษาธิการเป็นอาคาร ๓  ชั้น  กว้าง  ๓๐  เมตร  ยาว ๗๐ เมตร หออาซานสูง ๓๘ เมตร

ความสำคัญต่อชุมชน
          
มัสยิดกลางจังหวัดยะลาเป็นศาสนสถานที่ชาวไทยมุสลิมได้ใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจ และที่ประชุมเพื่อศึกษาธรรม เป็นมัสยิดที่สง่างามและเป็นที่ภาคภูมิใจของชาวจังหวัดยะลา





ตลาดนัดทุกวันอาทิตย์







ย่านชุมชนตลาดเก่า
      
                        
บ้านเรือนอาศัยในย่านชุมชนตลาดเก่าบางบ้านจะมีกรงนกติดหน้าบ้านกันเยอะมาก  

แม่ค้าคนนี้ขาย สเต๊ะไก่ย่าง เป็นอาหารที่เริศอย่างหนึ่ง ^^


ย่านตลาดเก่าเป็นแหล่งขายกรงนกที่ดีเชียวเลยค่ะ 
ยามเย็นของตลาดเก่า

ช่วงเย็นๆย่านตลาดเก่าจะขายอาหารเรียงแถวยาวตามถนน ทุกตรอกทุกซอย จะมีแต่ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ทุกอย่างสารพัดเลยค่ะ ตอนเย็นรถเยอะมาก แถมอาหารก็น่ากินเยอะด้วยแหละค่ะ ^^
ยามพระอาทิตย์ตก

ตลาดเก่า ยามราตรีกาล :)

                              BY FATEEMAY

                 *************************************************************                      


 ขอบคุณ เครดิตรูปภาพโดย      :เพจ ย่านตลาดเก่า ยะลา 
                                      :เพจ ยะลาเมื่อวาน
                                            :เดอะแก๊งค์โฟโต้ยะลา







แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ

น้ำตกสุขทาลัย (กือลอง) 
น้ำตกสุขทาลัย ตั้งอยู่ในบริเวณนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ (กือลอง) ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ห่างจากตัวจังหวัดยะลาไปทางถนนสายยะลา - เบตง ประมาณ ๕๐ กิโลเมตร และมีทางแยกจากถนนใหญ่เข้าไปอีกประมาณ ๘ กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่สวยงามและเป็นที่ตั้งของตำหนักสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนี ในโอกาสที่เด็จมาทรงปฏิบัติภาระกิจในจังหวัดยะลา และมีศาลาไว้สำหรับนำท่องเที่ยวได้พักผ่อนและรับประทานอาหาร
น้ำตกสุขทาลัย เป็นน้ำตกที่มีความร่มรื่นเป็นธรรมชาติ มีต้นไม้นานาพันธุ์ขึ้นอยู่มากมาย มองดูครื้มเย็นสบาย เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบ บรรยากาศเงียบๆ พักผ่อนและเล่นน้ำในแอ่งน้ำ     

                                                          

เบตง
เบตง เป็นอำเภอเก่าแก่อำเภอหนึ่งของจังหวัดยะลา มีฐานะเป็นอำเภอตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๔๑ ปัจจุบันมีการปกครอง ๔ ตำบล และ ๑ เทศบาลตำบล เป็นอำเภออยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศไทย ห่างจากกรุงเทพไปทางทิศใต้ โดยทางรถยนต์ประมาณ ๑.๕๐๖ กิโลเมตรห่างจากตัวจังหวัดยะลา ๑๔๐ กิโลเมตร เป็นเมืองชายแดน ที่มีความสำคัญมาตั้งแต่อดีต เป็นเมืองหน้าด่าน ที่สำคัญ ในปีหนึ่งๆ จะชาวไทยและชาวมาเลเซียผ่านเข้าออกทางเบตงเป็นจำนวนมาก 


เบตง เป็นภาษามลายู แปลว่า ไม้ไผ่ เนื่องจากเบตงมีลำคลอง มากมาย สองฝั่งคลองจะมีต้นไม้ไผ่ขึ้นเรียงรายโดยทั่วไป เมืองเบตง ตั้งอยู่บนเทือกเขาสันกาลาคีรีที่เป็นแนวพรมแดนระหว่างไทย - มาเลเซีย พื้นที่ประกอบไปด้วยที่ราบสูงเนินเขา ลุ่มน้ำ โดยเฉลี่ยสูงกว่าระดับน้ำทะเล ๑,๙๐๐ ฟุต สภาพป่าเป็นป่าไม้ดงดิบรับอิทธิพล ของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีฝนตกชุกอากาศอบอุ่นตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ย ๒๖ อาศาเซลเชียส  



ในเมืองเบตง นักท่องเที่ยวจะเห็นสิ่งที่แปลก คือ ตู้ไปรษณีย์ ที่สูงที่สุดในโลกตั้งสง่าอยู่ที่สี่แยกหอนาฬิกา ซึ่งมีประวัติความเป็นมา ที่น่าสนใจ เคยใช้เป็นหอกระจายข่าวทางราชการ และในช่วงเดือน กันยายนถึงเดือนมีนาคมจะมีนกนางแอ่นอพยพมาจาก ไซบีเรียนับเป็น แสนๆ ตัวในยามค่ำคืนจะเกาะอยู่บนสายไฟฟ้าทั่วเมืองเบตง นับว่าเป็นเมื่องเดียวในประเทศไทยที่มีนกนางแอ่นมาเยี่ยมเยียนมาก เป็นพิเศษ นอกจานี้ยังมีวัฒนธรรมผสมผสานของชาวไทยพุทธ เชื้อสายจีน เชื้อสายมลายู และไทยพุทธ มีประเพณีต่างๆ ที่เป็นเฉพาะ ของกลุ่มชนในท้องถิ่น เช่น มีประเพณีแห่พระของชาวไทยเชื้อสายจีน ที่สนุกสนานและตื่นเต้น 



ความเด่นทางธรรมชาติอีกอย่างหนึ่ง คือ เส้นทางคมนาคมทางบกที่คดเคี้ยวสวยงามลัดเลาะตามแนวเขาเหนือเขื่อนบางลาง ผ่านทะเลสาปน้อยกลางหุบเขาและป่าสลับซับซ้อนเชิญชวนให้หยุดชมทัศนียภาพที่สวยงาม นอกจากนี้เบตงยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกเช่น บ่อน้ำร้อนที่มีความร้อนสูงถึง ๘๑ องศาเซลเซียส มีน้ำตกอินทรสร มีสระว่ายน้ำ และสนามกีฬาในหุบเขาสวยงามน่าชมยิ่งนัก อาหารที่ชวนให้นักท่องเที่ยวบริโภค เช่น ไก่เบตง ปลาจีน กบภูเขา เขาหยก เป็นต้น สำหรับที่พักผ่อนนอนหลับ ก็มีโรงแรมใหญ่น้อย หลายแห่ง มีพนักงานคอยบริการอย่างเป็นกันเอง 





เขื่อนบางลาง
โครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนบางลางเป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำแห่งแรกของ ภาคใต้ ก่อสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ทางด้าน การป้องกันอุทกภัย การชลประทาน การผลิตกระแสไฟฟ้า การประมง การพักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งความมั่นคงทางเศรษฐกิจและ การเมืองของประชาชน 
ตัวเขื่อนบางลาง สร้างปิดกั้นแม่น้ำปัตตานี ที่บ้านบางลาง ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ห่างจากตัวเมืองยะลาไปทางทิศใต้ประมาณ ๕๘ กิโลเมตร โดยมีถนนแยกจากทางหลวงสายยะลา - เบตง ที่ กม. ๔๕ + ๖๐๐ เข้าไปยังเขื่อนอีกประมาณ ๑๒.๕ กิโลเมตร แม่น้ำปัตตานีมีต้นน้ำอยู่ในทิวเขา สันกาลาคีรี ซึ่งกั้นเขตแดนระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสหพันธรัฐมาเลเซีย ในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เป็นแม่น้ำที่มีต้นน้ำอยู่ตอนใต้สุดของประเทศ ลำน้ำตลอดสายไหลขึ้นทางเหนือด้านจังหวัดยะลา และไหลลงสู่อ่าวไทยในท้องที่ จังหวัดปัตตานี 


เนื่องจากแม่น้ำปัตตานีมีความลาดเทในตอนต้นน้ำ ดังนั้นเวลาฝนตกน้ำจะะท่วมบริเวณ อำเภอบันนังสตา ลงมาถึงจังหวัดยะลา เป็นประจำ เมื่อลำน้ำออกสู่ที่ราบซึ่งมีความลาดเทน้อยน้ำจะไหลช้าลง และทำให้น้ำท่วมเสียหายแก่การเพาะปลูก
วิธีการแก้ปัญหาในเรื่องนี้รัฐบาลได้ดำเนินการศึกษาสำรวจลุ่มน้ำปัตตานี และจัดทำแผนพัฒนาลำน้ำปัตตานีโครงการก่อสร้าง ไฟฟ้าพลังนี้เขื่อนบางลางจึงได้เกิดขึ้นด้วยงบประมาณที่สูงมากเนื่องจากดำเนินการ ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจของโลกกำลังปั่นป่วน ราคาน้ำมันถีบตัวขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว แต่เขื่อนบางลางก็สำเร็จลงได้เป็นแห่งแรกในภาคใต้ สร้างขึ้นตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการนี้มีมากมาย เช่น
ป้องกันน้ำท่วม เพราะเขื่อนสามารถกักเก็บน้ำได้เต็มที่ ๑๕๔๐ ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณเก็บกักดังกล่าว สามารถป้องกันน้ำท่วม บริเวณตอนล่างของลุ่มแม่น้ำปัตตานีเป็นอย่างดี
การผลิตกระแสไฟฟ้า เครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังน้ำขนาดกำลังผลิต ๒๔๐๐๐ กิโลวัตต์ จำนวน ๓ เครื่อง จะผลิตพลังไฟฟ้าได้เฉลี่ยปีละ ๒๐๐ ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง ส่งไปให้ประชาชนในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และจังหวัดอื่นในภาคใต้ ช่วยให้ระบบไฟฟ้าในภาคใต้ มีความมั่นคงยิ่งขึ้น 
การชลประทาน น้ำที่ปล่อยจากเขื่อนบางลางเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจะสัมพันธ์ กับการจัดสรรน้ำเพื่อการชลประทานแก่พื้นที่เพาะปลูก ของจังหวัดยะลา และปัตตานี ๒ โครงการ ทั้งฤดูฝนและฤดูแล้ง
การประมงน้ำจืด บริเวณอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนบางลางเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยอาหารของปลาและสัตว์น้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตและกรมประมงจึง ปล่อยปลาชนิดต่างๆ ลงในอ่างเก็บน้ำ ซึ่งช่วยเพิ่มอาชีพและรายได้แก่ราษฏรที่อาศัย ในบริเวณใกล้เคียงเขื่อน
สถานที่พักผ่อนและท่องเที่ยว อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนเป็นทะเลสาปน้ำจืดขนาดใหญ่มีทิวทัศน์สวยงาม เต็มไปด้วยป่าเขา ร่มรื่นไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด จึงเหมาะที่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดี เป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ราษฏร ในท้องถิ่นอีกทางหนึ่ง
ความมั่นคงของประเทศ การก่อสร้างเขื่อนบางลางเป็นการสร้างงานขนาดใหญ่ช่วยให้คนมีงานทำทำให้ฐานะของราษฏรดีขึ้น และการจัดสรรให้ราษฏรที่ถูกน้ำท่วมไปอยู่ในที่ทำกินใหม่ มีอาชีพรายได้ที่แน่นอน จะช่วยแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจให้ดีขึ้น นับว่าเป็นการสร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศชาติได้เป็นอย่างดี


 น้ำตกธารโต
อยู่ที่ตำบลถ้ำทะลุ ห่างจากตัวเมืองยะลาไปตามถนนสายยะลา-เบตง (ทางหลวง 410) กิโลเมตรที่ 47-48 มีทางแยกขวาไปอีกราว 1 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 7 ชั้น มองเห็นเป็นทางน้ำที่ไหลลดหลั่นมาจากภูเขาสูง มีแอ่งน้ำซึ่งสามารถเล่นน้ำได้ โดยรอบร่มรื่นไปด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้ที่น่าสนใจมากมายรวมทั้งต้นศรียะลา หรืออโศกเหลือง ซึ่งจะออกดอกชูช่อสีเหลืองสวยงามในราวเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี



น้ำตกละอองรุ้ง

อยู่ที่หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านแหร ห่างจากตัวจังหวัดยะลาไปทางเบตงประมาณ 80 กิโลเมตร ด้านขวามือ มีทางเข้าไปยังหมู่บ้านที่อาศัยของชนเผ่าซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามเงาะซาไกเดิมดำรงชีวิตอยู่ด้วยการหาของป่า มีความชำนาญในด้านสมุนไพรและเป่าลูกดอกล่าสัตว์ บ้านเรือนของซาไกเดิมสร้างด้วยไม้ไผ่ มุงหลังคาจาก ต่อมา กรมประชาสงเคราะห์ได้พัฒนาหมู่บ้านแห่งนี้ โดยรวบรวมชาวซาไกมาอาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกัน และให้มีอาชีพทำสวนยางและได้กราบบังคมทูลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีขอใช้คำว่าศรีธารโตให้ทุกคนใช้เป็นนามสกุล ปัจจุบันมีชนเผ่าซาไกที่ยังคงอาศัยอยู่บ้าง แต่บางส่วนได้แยกย้ายไปทำงานที่อื่น

หมู่บ้านซาไก

อยู่ที่หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านแหร ห่างจากตัวจังหวัดยะลาไปทางเบตงประมาณ 80 กิโลเมตร ด้านขวามือ มีทางเข้าไปยังหมู่บ้านที่อาศัยของชนเผ่าซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามเงาะซาไกเดิมดำรงชีวิตอยู่ด้วยการหาของป่า มีความชำนาญในด้านสมุนไพรและเป่าลูกดอกล่าสัตว์ บ้านเรือนของซาไกเดิมสร้างด้วยไม้ไผ่ มุงหลังคาจาก ต่อมา กรมประชาสงเคราะห์ได้พัฒนาหมู่บ้านแห่งนี้ โดยรวบรวมชาวซาไกมาอาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกัน และให้มีอาชีพทำสวนยางและได้กราบบังคมทูลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีขอใช้คำว่าศรีธารโตให้ทุกคนใช้เป็นนามสกุล ปัจจุบันมีชนเผ่าซาไกที่ยังคงอาศัยอยู่บ้าง แต่บางส่วนได้แยกย้ายไปทำงานที่อื่น










by Namfon Thongchuer


**********************************************************************



วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ภาพสถานที่ต่างๆในจังหวัดยะลา

ภาพสถานที่ต่างๆในจังหวัดยะลา


      เนื่องจากเราได้แนะนำสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดยะลามาพอสมควรแล้ว ดังนั้นในตอนนี้เราก็เลยอยากจะนำภาพที่เราได้ถ่ายในอีกหลายสถานที่ ที่เรายังไม่ได้นำมาลงให้ได้ชมกัน หวังว่าคงจะชอบกันนะค่ะ^^
       สถานที่แรก คือ วัดนิโรธสังฆาราม หรือ วัดหัวหวน ค่ะ เนื่องจากวัดวัดนี้ตั้งอยู่สูงมากค่ะ มาดูภาพกันค่ะ


ภาพนี้คือ พระมหาธาตุเจดีย์ค่ะ

ด้านซ้ายและขวาของทางขึ้น พระมหาธาตุเจดีย์ มียักษ์เฝ้าอยู่

เมือเราขึ้นบันไดมาก็จะมีลานเดินล้อมรอบเจดีย์ค่ะ

นี่คือองค์เจดีย์ค่ะ
และเมื่อเรามองไปรอบๆ ก็จะเห็นวิวจากมุมสูงค่ะ ^^
ซึ่งดิฉันชอบมากเลยล่ะค่ะ >_<





สถานที่ต่อไปคือ สวนศรีเมืองค่ะ


สวนศรีเมืองนั้นสร้างติดกับริมแม่น้ำปัตตานีซึ่งเป็นทางยาวมากค่ะ
สถานที่นี้แห่งเหมาะจะปั่นจักรยานมากเลยค่ะ



เพื่อนฉันเค้ากำลังซึมซับบรรยากาศอยู่ค่ะ^^

เมื่อเรามองไปจากตรงนี้ก็จะเห็นสะพานรถไฟค่ะ


สถานที่ต่อไป คือ ศูนย์เยาวชนยะลาค่ะ


ภายในศูนย์เยาวชนแห่งนี้ยังมี อุทยานการเรียนรู้ หรือ TK Park ด้วยค่ะ

ซึ่งที่นี่ดิฉันและเพื่อนมักจะมาอ่านหนังสือ ค้นคว้าข้อมูลที่นี่บ่อยๆค่ะ


ส่วนนี่ก็เป็นอาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาค่ะ



ยังมีอีกหลายที่ค่ะ เอาเป็นว่า คราวหน้าจะเอามาลงให้ชมอีกนะค่ะ ^^










ภาพ: By Namfon Thongchuer



************************************************************