วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

Archaeological resources murals "Tham Sin" (แหล่งโบราณคดี จิตรกรรมฝาผนังถ้ำศิลป์)

แหล่งโบราณคดี จิตรกรรมฝาผนังถ้ำศิลป์

Archaeological resources murals "Tham Sin"



 "ถ้ำศิลป์" อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ ๒ ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ในภูเขาเดียวกันกับถ้ำพระนอน แต่ห่างจากถ้ำ พระนอนไปทางหัวเขาทิศใต้ประมาณ ๑.๕ กิโลเมตร ถ้ำศิลป์อยู่ห่างจากตัวเมืองยะลาไปตามทางหลวงหมายเลข ๔๐๙ แยกเข้าถ้ำศิลป์ประมาณ ๑๐ กิโลเมตร









 จิตรกรรมฝาผนังถ้ำศิลป์
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๘ หะยีวังกะจิได้พบถ้ำแห่งนี้และได้รายงานให้กำนัน ตำบลหน้าถ้ำทราบว่าในถ้ำมีเศษพระพุทธรูปกระจัดกระจายอยู่ เช่น นิ้วพระหัตถ์บ้าง ส่วนขององค์พระบ้าง หลังจากนั้นขุนศิลปกรรมพิเศษ ได้สำรวจและรายงานต่อ กรมศิลปากรว่า ภายในถ้ำมีดมีภาพเขียนสีอยู่ตามผนังถ้ำและได้พบอิฐปูน เกลื่อนกลาดอยู่ตามพื้น บางส่วนดูออกว่าเป็นเส้นพระเกศาของพระพุทธรูป ขนาดใหญ่ ประมาณว่าเท่ากับพระพุทธไสยาสน์ที่ถ้ำพระนอน ต่อจากนั้นในปี พ.ศ. ๒๔๙๕ พ.ท. หลวงรณสิทธิพิชัย อธิบดีกรมศิลปากร และนายมานิต วัลลิโภดม หัวหน้ากองโบราณคดีได้สำรวจถ้ำนี้อีกครั้งหนึ่งและในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ คณะของกรมศิลปากรอันมีนายธนิต อยู่โพธิ์ อธิบดีกรมศิลปากร นายชิน อยู่ดี และเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ได้สำรวจและจัดทำคำอธิบายภาพเหล่านี้ไว้ ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๐๑ นายเขียน ยิ้มศิริ นายจำรัส เกียรติก้อง และนายชิน อยู่ดี ได้รับทุนจากองค์การ ส.ป.อ. เพื่อค้นคว้าวิวัฒนาการของศิลปไทย จึงได้จัดการคัดลอกภาพเขียนสีไว้ พร้อมทั้งจัดทำแผนที่ แผนผัง และถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน จิตรกรรมฝาผนังถ้ำศิลป์
ภาพที่เขียน เป็นภาพพระพุทธเจ้าปางมารวิชัย ภาพพระพุทธเจ้าประทับนั่ง เป็นแถวเบื้องซ้ายและขวา มีสาวกหรือาจจะเป็นอุบาสกอุบาสิกานั่งประนมมืออยู่ พระพุทธเจ้าปางลีลาและมีรูปผู้หญิงยืนเป็นหมู่สามคน ส่วนสีที่เขียนเป็นสีดินเหลือง เป็นหลัก ซึ่งประกอบด้วยสีน้ำตาลและแดง เพื่อแยกน้ำหนักอ่อนแก่ ตัดเส้นด้วนสีดำ ส่วนสีเขียวปรากฏให้เห็นในภาพเป็นสิ่งที่เกิดขี้นภายหลังเนื่องจากปฏิกิริยาทาง เคมีของสารที่ผสมอยู่ในสี
ศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี และอาจารย์เขียน ยิ้มศิริ นักโบราณคดีได้ สัณนิษฐานว่า ภาพเขียนสีเหล่านี้เป็นฝีมือสกุลช่างท้องถิ่น ที่ไดรับอิทธิพลด้านรูปแบบของภาพโดยตรงจากอินเดีย พิจารณารูปแบบ และควรจะเป็นภาพเขียนสมัยศรีวิชัยตอนปลาย คือราวพุทธศตวรรษที่ ๑๙ - ๒๐
ภาพเขียนสีทั้งหมดนี้ในปัจจุบันลบเลือนไปตามสภาพธรรมชาติ ซ้ำยังมีการเขียนต่อเติม มีการขูดขีดให้สูญหายไปเสียมาก พื้นถ้ำก็ถูกชาวบ้านขุดมูลค้างคาวไปเป็นปุ๋ย ก่อให้เกิดความเสียหายมาก


"Tham Sin" located in Moo 2, Tambon Na Tham Muang Yala mountain cave with the bed. But away from the cave. Lying to the south of the head, about 1.5 kilometers away from the cave art Yala on Highway 409 about 10 miles separate cave art.

Wang Chi Hadji 2468 when I found this cave and reported to Chief. District's cave in the cave with Buddha debris scattered as my finger. Part of the question. After finishing art special. The survey and report. Department that Inside the cave there are paintings on the cave walls were brick and cement. Scattered on the floor. Some see it as a line out of his hair at the Big Buddha is a reclining Buddha cave to sleep. Subsequently, in 2495 the Royal Bldg Pichai right equipment. Department of Fine Arts, and Mr. Manit Bhopal sniffing chief archaeologist Waldemar Lima explored this cave again, and in 2500 the Faculty of Fine Arts Department of the Tanith is Mr. Poe, Mr. Chin Yu Director of Fine Arts and a number of officials. Explored and documented explanation of these later in the year 2501 by Mr. Siri a smile shining glory echoes Mr. Yu and Mr. Shin received a grant to study the evolution of the art of organization S.p.a. Thailand. Have managed to copy the paintings. The preparation of maps, charts and photographs as evidence.
This is written as the Buddha subduing Mara. Buddha image sitting. The left and right in a row. There may be a follower or a raise worshipers sit on. Buddha posture and have a woman standing in groups of three. The color is a yellow ground color mainly consists of brown and red. To separate the light weight. Stripping the black stump. The green to be seen in the picture is what raged after the reaction. Chemical substances are mixed in color.
Professor of Arts and Master P Sri Siri a smile archaeologists have assumed that human visual New paintings are handmade from a local technician. Influenced the form of images directly from India. Consider the style. And should not be written at the end of Srivijaya. Century is around 19-20.
All paintings are currently oblivious to the natural conditions. I also had to write an addition. Is lost to waste a lot of scratching. The floor of the cave was home to dig guano as fertilizer. Cause much damage.




















By Namfon Thongchuer ^_^

ที่มาของภาพ : http://kanchanapisek.or.th




................................................................................................................

วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556

WAT KUHAPIMUK TEMPLE (วัดคูหาภิมุข)


WAT KUHAPIMUK TEMPLE

     “วัดคูหาภิมุข” เป็นวัดที่สำคัญของเมืองยะลา มีพิพิธภัณฑ์ศรีวิชัย เก็บวัตถุโบราณที่ได้มาจากวัดถ้ำ ภูเขากำปั่น พระพิมพ์ดินดิบ สถูปเม็ดพระศก อิฐฐานพระพุทธรูป จอมพลแปลก พิบูลสงคราม เปลี่ยนชื่อ “วัดหน้าถ้ำ” เป็น “วัดคูหาภิมุข”


     ตำบลหน้าถ้ำ ภาพพิกัดทางภูมิศาสตร์ของวัดคูหาภิมุขตำบลหน้าถ้ำ เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ พบร่องรอยศาสนสถาน เมืองโบราณ ซึ่งเป็นศาสนสถานที่พบเทวรูปสำริด กำแพงเมือง พระพิมพ์ดินดิบแบบทวารวดีศรีวิชัย ภาพเขียนสีพระพุทธรูปฉาย ภาพเขียนสีราชรถมีสัตว์เทียม มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 15-17 ยะลาเป็นชุมชนเกษตร นักโบราณคดีได้พบภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์บริเวณถ้ำคูหาภิมุข เป็นภาพพระพุทธฉาย และภาพราชรถแกะสลักไว้บนหน้าผา ภายในบริเวณถ้ำคูหาภิมุข

Giant Statues


ยักษ์หน้าถ้ำที่คูหาภิมุข เป็นประติมากรรมแบบลอยตัว(round relief)

    หรือรูปปั้นที่ สามารถแลดูได้รอบทิศ ปรากฏพบอยู่ภายในอาณาบริเวณของวัดคูหาภิมุข หรือวัดหน้าถ้ำ ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยรูปลักษณะเป็นยักษ์ในความเชื่อของคนท้องถิ่น กล่าวคือยักษ์ตนดังกล่าวมีรูปร่างคล้ายคนป่าเผ่าซาไก ตัวดำผมหยิก ไว้หนวดเครารกรุงรัง มีเขี้ยวงอกออกมาพ้นริมฝีปาก นุ่งกางเกงหรือผ้าถุงสีแดงฉูดฉาดตา ยืนตัวตรง มือทั้งสองข้างจับไม้กระบองที่มีหัวกะโหลกมนุษย์เป็นด้ามท้ายแนบไว้กลางลำตัวอย่างทะมัดทะแมง มีงูบอง หรืองูบองหลา(งูจงอาง) เป็นสายสร้อยคล้องคอ 


      The reclining Buddha image is located near the inner wall wall of the cave and surrounded by a large number of stucco Buddha images of various sizes. It was believed to hac\ve been built in 757 A.D. in the Sri Vijaya period and measures 81.1 feet. The image is believed to have originally been the Reclining Visnu as apparent from the Naga's hood over his head, but was alterred into a Hinayana reclining Buddha

     พระพุทธไสยาสน์เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ ปั้นด้วยดินเหนียวโดยใช้ไม่ไผ่เป็นโครง สร้างขึ้นสมัยศรีวิชัยรุ่งเรืองราว พ.ศ.1300 หรือสมัยเดียวกับพระบรมธาตุเมืองนคร มีขนาดความยาว 81 ฟุต 1 นิ้ว ประดิษฐานภายในถ้ำคูหาภิมุข เดิมชื่อ วัดหน้าถ้ำ กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 52 ตอนที่ 75 ลงวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2478 วัดคูหาภิมุข มีพระพุทธรูปสมัยศรีวิชัย สมัยสุโขทัย สมัยอู่ทอง ใกล้ๆ กับวัดมีภูเขากำปั่นเป็นภูเขาหินอ่อนสีชมพู สวยงามมาก ปัจจุบัน รัฐบาลได้ให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนทำหินอ่อนจำหน่าย หินอ่อนสีชมพูจากยะลามีความสวยงาม มีชื่อเสียงระดับประเทศ

     จากบันทึกของนักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์ และนักวิชาการข้างต้นทำให้ทราบว่า พื้นที่จังหวัดยะลาบริเวณตำบลท่าสาป และตำบลหน้าถ้ำปัจจุบัน เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ กลุ่มชนเหล่านี้ได้มีการติดต่อสัมพันธ์กัน และพัฒนาเรื่อยมาจนเข้าสู่สมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์






ภาพ: By Namfon Thongchuer ^_^


*********************************************************************








Suan Khwan Mueang Park (สวนขวัญเมืองยะลา)


Suan Khwan Mueang Park

This public park is located on Thanon Thetsaban 1, about 300 metres from the City Pillar Shrine. Its vast area of 207 rai has a separate sportsground and a 69 rai pond, landscaped with sandy beach and sea pines to remedy the landlocked problem of the province. Furthermore, singing bird contest (Nok Kao Java) is often held at this Park since it is the largest and the best ground for such contest in the south


สวนขวัญเมือง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล 1 ในเขตเทศบางเมืองยะลา ห่างจากศาลหลักเมืองยะลาประมาณ 300 เมตร เป็นสวนสาธารณะของเทศบาลเมืองยะลา พื้นที่รวมทั้งสิ้นประมาณ 207 ไร่ ปรับปรุงขึ้นจากพรุบาโกยโดยจัดให้มีสวนกีฬา สนามแข่งขันนกเขาชวาเสียง ซึ่งเป็นสนามมาตรฐานที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ และชายหาดจำลองสวนแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เดินทางมาทำพิธีเปิดป้ายชื่อ "สวนขวัญเมือง" เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 



Singing bird contest (Nok Kao Java) is often held at this Park 


Pines


Exploring Park




    สวนขวัญเมือง สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของเทศบาลนครยะลา เดิมเป็นพรุ  หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าพรุบาโกย เป็นที่ลุ่มน้ำท่วมขัง ทำการเกษตรก็ไม่ได้ ทำที่อยู่อาศัยก็ยาก  ใช้ประโยชน์ อะไรไม่ได้ เทศบาลนครยะลาจึงพัฒนาเป็นสวนสาธารณะ   เนื่องจากจังหวัดยะลาเป็นจังหวัดเดียวของภาคใต้ ที่ไม่ติดทะเล  จึงออกแบบสวนสาธารณะเลียนแบบทะเล หรือว่าทำทะเลเทียม เนื่องจากพื้นที่เป็นพรุ สวนหนึ่งต้องขุด ส่วนหนึ่งต้องถม และเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ และเพื่อให้น้องชาวยะลา ได้เที่ยวทะเลโดยไม้ต้องเดินทางไปปัตตานีสงขลาหรือ นราธิวาส









ภาพ: By Namfon Thongchuer ^_^

***********************************************************************







วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2556

สนามโรงพิธีช้างเผือก





ในใจกลางเมืองยะลา....

             มีการสร้างอนุสรณ์พระเศวตสุรคชาธาร ณ จุดที่มีพระราชพิธีสมโภชรับและขึ้นระวางพระเศวตสุรคชาธาร เรียกว่า สนามโรงพิธีช้างเผือก พร้อมทั้งมีการสร้างศาลาพระเศวต มีศาลาธรรมศาสตร์ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประทับตอนงานสมโภช


 พระเศวตสุรคชาธารเป็นช้างสำคัญคู่พระบารมี


อาคารช้างเผือกพระเศวตสุรคชาธาร

ศาลาธรรมศาสตร์ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประทับตอน

งานสมโภช
 
                


 
                                                             
                   
          ร.๕ ตั้งอยู่กลางบริเวณสนาช้างเผือก..และจะมีผู้คนสัญจรมาสักการะและบนบาน เป็นต้นค่ะ



ตรงบริเวณสนามช้างเผือกจะมีหอนาฬิกาที่มีชื่อว่าหอนาฬิกาโรตารี..ตั้งอยู่ใจกลางสนามาช้างเผือก

ภายในบริเวณก็จะมีสวนสารธรณะย่อมใจที่ให้ผู้คนอยากมาพักผ่อนได้พักผ่อนไปพร้อมกับบรรยากาศที่ธรรมชาติ 

ตรงนี้ก็จะประดับประดาด้วยดอกไม้ต่างๆนานาชนิด ค่ะ 


บริเวณนี้เป็นน้ำตกขนาดเล็ก มานั้งถือว่าได้บรรยากาศมาก ได้รับลมเย็นกับธรรมชาติบวกด้วยกับเสียงน้ำตกเบาๆและยังมีนกร้องตามบริเวณสวนอีกด้วย ค่ะ ถือว่าเป็นการผ่อนคลายจริงๆ
บันไดทางขึ้นไปพักผ่อนบนศาลาเล็กๆ สองข้างทางบันไดประดับไปด้วยพุ้มดอกเข็ม













     








มีรูปปั่น ให้ถ่ายรูปเล่นๆด้วยค่ะ










                                               
มีต้นไม้ใหญ่หลายร้อยปีหลายต้นมากในบริเวณสนามชั้างเผือก


สองข้างทางร่มรื่นไปด้วยต้นประดู่

มีเก้าอี้ม้านั้งให้พักผ่อนกันด้วย...ตอนเช้าๆใครมานั้งบริเวณนี้จะได้กลิ่นดอกดาวเรือง..หอมมากๆ:)

ตามพื้นจะมีดอกประดู่ตกลงมาเต็มไปเลย












                                            




บริเวณตรงนี้เป็นสระน้ำ...มีปลาว่ายเต็มไปหมดเลยค่ะ ^^



ตรงกลางสระน้ำจะมีน้ำพุ..แต่วันนี้เรามาเช้า น้ำพุยังไม่เปิด ^^



ภาพบรรยายกาศทั้งหมด..ณ สนามพิธีโรงช้างเผือก...
ใครที่อยู่ต่างจังหวัดสามารถเข้ามาเที่ยวเมืองยะลาได้น่ะค่ะยะลาถือว่าเป็นเมืองที่สะอาดมากๆ

    และได้ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดความสะอาด 3 ปีซ้อน....ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะไม่สงบ แต่ยะลาก็ไม่ได้เป็นจังหวัดที่น่ากลัวอะไรมาก ผู้คนในยะลาก็ดำรงชีวิตกันอย่างปกติ อยากให้คนต่างแดนมองมุมกลับและความคิดที่ว่ายะลาเป็นเมืองที่น่ากลัวเพราะมีเหตุการณ์....ในจังหวัดยะลานั้นยังมีสถานที่สำคัญและสวยงามหลายที่และไม่แพ้หลายๆจังหวัด...แล้วเราก็มีความสุขที่ได้อยู่เมืองยะลา ค่ะ :) 









ภาพ: Namfon Thongchuer
&
Fateemay yomdoy




























วงเวียนหอนาฬิกา..ยะลา..

ก่อนที่จะดูภาพวงเวียนหอนาฬิกา มาดูบริเวณรอบกว้างๆกันก่อนน่ะค่ะ ^^
Cr.รูปจากhttp://www.skyscrapercity.com

& Namfon Thongchuer


เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เข้ามาเดินและถ่ายรูปในวงเวียนหอนาฬิกายะลาแห่งนี้ ...อยู่ยะลามา20กว่าปี ไม่เคยเดินเข้ามาสักครั้งมีแต่ขับรถผ่าน :)

ในช่วงเทศกาลต่างๆก็จะมีการประดับประดาด้วยป้ายหรือไฟต่างๆ

ในวงเวียนก็จะมีพุ้มไม้..แต่ไม่ใช่พุ้มไม่ธรรมดาน่ะค่ะ..พุ้มไม้รูปช้าง ^^ ซึ่งก็จะมีการตบแต่งพุ้มไม้ให้เป็นรูปสัตว์ไม่ว่าจะเป็นช้าง  จิงโจ้ หลายๆอย่างค่ะ แต่วันนี้เข้ามาเจอแต่งรูปช้าง :)

ในบริเวณนี้เป็นทางแยกของวงเวียนซึ่งจะมีต้นไม้2ข้างทางและมีซุ้มโค้ง...บรรยากาศร่มรื่นมากช่วงเช้าๆผ่านมาจะหอมกลิ่นดอกประดู่ ^^ตอนกลางคืนขับรถผ่านมาโรแมนติกมากค่ะเพราะซุ้มโค้งนี้จะประดับด้วยไฟสีส้มๆ 


                                                                                                                           BY FATEEMAY
********************************************************************************