WAT KUHAPIMUK TEMPLE
“วัดคูหาภิมุข” เป็นวัดที่สำคัญของเมืองยะลา มีพิพิธภัณฑ์ศรีวิชัย เก็บวัตถุโบราณที่ได้มาจากวัดถ้ำ ภูเขากำปั่น พระพิมพ์ดินดิบ สถูปเม็ดพระศก อิฐฐานพระพุทธรูป จอมพลแปลก พิบูลสงคราม เปลี่ยนชื่อ “วัดหน้าถ้ำ” เป็น “วัดคูหาภิมุข”
ตำบลหน้าถ้ำ ภาพพิกัดทางภูมิศาสตร์ของวัดคูหาภิมุขตำบลหน้าถ้ำ เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ พบร่องรอยศาสนสถาน เมืองโบราณ ซึ่งเป็นศาสนสถานที่พบเทวรูปสำริด กำแพงเมือง พระพิมพ์ดินดิบแบบทวารวดีศรีวิชัย ภาพเขียนสีพระพุทธรูปฉาย ภาพเขียนสีราชรถมีสัตว์เทียม มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 15-17 ยะลาเป็นชุมชนเกษตร นักโบราณคดีได้พบภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์บริเวณถ้ำคูหาภิมุข เป็นภาพพระพุทธฉาย และภาพราชรถแกะสลักไว้บนหน้าผา ภายในบริเวณถ้ำคูหาภิมุข
Giant Statues |
ยักษ์หน้าถ้ำที่คูหาภิมุข เป็นประติมากรรมแบบลอยตัว(round relief)
หรือรูปปั้นที่ สามารถแลดูได้รอบทิศ ปรากฏพบอยู่ภายในอาณาบริเวณของวัดคูหาภิมุข หรือวัดหน้าถ้ำ ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยรูปลักษณะเป็นยักษ์ในความเชื่อของคนท้องถิ่น กล่าวคือยักษ์ตนดังกล่าวมีรูปร่างคล้ายคนป่าเผ่าซาไก ตัวดำผมหยิก ไว้หนวดเครารกรุงรัง มีเขี้ยวงอกออกมาพ้นริมฝีปาก นุ่งกางเกงหรือผ้าถุงสีแดงฉูดฉาดตา ยืนตัวตรง มือทั้งสองข้างจับไม้กระบองที่มีหัวกะโหลกมนุษย์เป็นด้ามท้ายแนบไว้กลางลำตัวอย่างทะมัดทะแมง มีงูบอง หรืองูบองหลา(งูจงอาง) เป็นสายสร้อยคล้องคอ
พระพุทธไสยาสน์เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ ปั้นด้วยดินเหนียวโดยใช้ไม่ไผ่เป็นโครง สร้างขึ้นสมัยศรีวิชัยรุ่งเรืองราว พ.ศ.1300 หรือสมัยเดียวกับพระบรมธาตุเมืองนคร มีขนาดความยาว 81 ฟุต 1 นิ้ว ประดิษฐานภายในถ้ำคูหาภิมุข เดิมชื่อ วัดหน้าถ้ำ กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 52 ตอนที่ 75 ลงวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2478 วัดคูหาภิมุข มีพระพุทธรูปสมัยศรีวิชัย สมัยสุโขทัย สมัยอู่ทอง ใกล้ๆ กับวัดมีภูเขากำปั่นเป็นภูเขาหินอ่อนสีชมพู สวยงามมาก ปัจจุบัน รัฐบาลได้ให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนทำหินอ่อนจำหน่าย หินอ่อนสีชมพูจากยะลามีความสวยงาม มีชื่อเสียงระดับประเทศ
จากบันทึกของนักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์ และนักวิชาการข้างต้นทำให้ทราบว่า พื้นที่จังหวัดยะลาบริเวณตำบลท่าสาป และตำบลหน้าถ้ำปัจจุบัน เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ กลุ่มชนเหล่านี้ได้มีการติดต่อสัมพันธ์กัน และพัฒนาเรื่อยมาจนเข้าสู่สมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์
ภาพ: By Namfon Thongchuer ^_^
*********************************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น